พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ประจำปีการศึกษา 2559 ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

วันที่ 13 ธันวาคม 2560 เวลา 14.57 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ประจำปีการศึกษา 2559 ณ หอประชุมพุทธมณฑล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงนครปฐม รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายกสภามหาวิทยาวิทยาลัยเวสเทิร์น อธิการบดี คณาจารย์ ผู้แทนนักศึกษา เฝ้ารับเสด็จ

สำหรับมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และอีก 2 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตวัชรพล จังหวัดปทุมธานี และวิทยาเขตบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2541 ปัจจุบันได้เปิดสอนในระดับปริญญาเอก 7 สาขาวิชา ปริญญาโท 7 สาขาวิชา และปริญญาตรี 9 สาขาวิชา ซึ่งในปีนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับประทานปริญญากิตติมศักดิ์ จำนวน 7 คน มีผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก จำนวน 61 คน ระดับปริญญาโท จำนวน 271 คน และระดับปริญญาตรี จำนวน 572 คน รวมผู้เข้ารับประทานปริญญาบัตร 904 คน

โอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานพระโอวาท แก่ผู้สำร็จการศึกษา ความว่า “การศึกษาเป็นพื้นฐานของการเกิดปัญญา คือความรอบรู้ ปัญญานี้ นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเจริญมั่นคงของบุคคลและประเทศชาติ เพราะบุคคลจะมีชีวิตรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ จำต้องมีปัญญารู้คิดอ่านอย่างฉลาด ถึงจะสามารถดำเนินชีวิต และทำการใดๆ ได้สำเร็จ อีกทั้งประเทศชาติของเรากำลังจะพัฒนาไปสู่ยุค 4.0 แต่การจะสามารถพัฒนาตามที่มุ่งหมายกันได้นั้น นอกจากจะต้องใช้วิทยาการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว ยังจะต้องอาศัยปัญญาคิดสร้างสรรค์ของพลเมืองในชาติด้วย ฉะนั้น ท่านทั้งหลายซึ่งได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาแล้ว ถือได้ว่าเป็นปัญญาชน หรือบัณฑิตที่มีความรอบรู้ในวิชาแต่ละสาขาเป็นอย่างดี จึงควรตั้งใจพยายามนำวิชาความรู้ ที่ศึกษาสำเร็จมา ไปปฏิบัติใช้อย่างผู้มีปัญญา โดยใช้สติปัญญาพิจารณาไตร่ตรองที่ละเอียดรอบคอบ ให้บังเกิดประโยชน์ และความสำเร็จก้าวหน้าต่อการดำเนินชีวิต และการประกอบกิจการงานทั้งปวง แต่ละคนจะได้มีชีวิตและอนาคตที่เจริญรุ่งเรือง และมีส่วนช่วยพัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวไปสู่ยุค 4.0 ที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป”

Related posts