การประสานงานร่วมมือกันของ คณะสงฆ์ในจังหวัดนครปฐมเพื่อช่วยเหลือญาติโยมและสงเคราะห์ผู้ยากไร้เป็นการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนโครงการตามหลักบวร บ้าน วัด โรงเรียนเป็นการขับเคลื่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้บ้านเมืองอยู่อย่างสงบสุขมีความสามัคคีมีน้ำใจอบอ้อมอารีแก่กันด้วยมีแกนหลักให้บ้านหมายถึงประชาชน วัดและคณะสงฆ์ รวมถึงโรงเรียนซึ่งอาจเนื่องด้วยโรงพยาบาลในการประสานงานให้เกิดโครงการและมีเป้าหมายอย่างลุล่วง ภายใต้โครงการธนาคารเตียงเสบียงแห่งกำลังใจ
จากข้อมูลที่ได้รับเรื่องราวของคุณยายนกเอี้ยง เภาประพันธ์ อายุ อายุ อายุ 64ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเลขที่ 43/8 หมู่ที่ 3 ซอย2 ร้านเด็กมณฑา ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งมีอาการป่วย ซึ่งป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก) มีอาการกลับไปเป็นเด็ก ลืม ไม่รับรู้คำสั่ง นั่ง นอน กิน ไม่สามารถทำเองได้ ดิ้นเกือบตลอดเวลาต้องมัดมือ มัดเท้าเวลาให้อาหาร นม ทางสายยาง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ยานอนหลับช่วยตอนกลางคืน และมีอาการป่วยด้วยระบบหายใจเรื้อรัง โดยนางสาวดาวเรือง สนองผัน อายุ 49 ปี บุตรสาวเป็นผู้ดูแล โดยได้ประสานร้องขอรับเตียงสำหรับผู้ป่วยในโครงการธนาคารเตียงและรถวีลแชร์ วัดไผ่ล้อมฯ
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม ได้ประสานความร่วมมือกับพระวชิรปัญญาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง และนางพัชรี เกษรบุนนาค เป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน ลงพื้นที่เพื่อนำเตียงและรถวีลแชร์สำหรับผู้ป่วย เครื่องดำรงชีพและปัจจัยเพื่อมอบให้และสอบถามปัญหาในการดำเนินชีวิต ผ่านการร่วมมือกันภายใต้โครงการธนาคารเตียงเสบียงแห่งกำลังใจ
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้เป็นการได้รับการประสานงานมาจากหลานของผู้ป่วยผ่านโครงการธนาคารเตียงและรถวีลแชร์วัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง โดยพระวชิรปัญญาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้เป็นผู้รับข้อมูลและการร้องขอมาจากทางหลานของผู้ป่วยซึ่งได้มีการลงพื้นที่มาสำรวจปัญหาต่างๆคือนอกเหนือจากสุขภาพที่สุดโทรมซึ่งนางนกเอี้ยงได้นอนติดเตียงอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งจำเป็นจะต้องใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ในการดำเนินชีวิต เมื่อได้พิการลงพื้นที่มาก็พบว่าปัญหาหลักคือการต้องรักษาสุขภาพในเรื่องของระบบทางเดินหายใจและการพลิกตัวให้กับผู้ป่วยโดยยังมีอาการโรคหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องมีบุตรสาวดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งหนังหลังจากนี้ก็จะฝาก ท่านพระวชิรปัญญาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ช่วยดูแลและติดตามเรื่องการดูแลรักษาและปัญหาความเดือดร้อนต่อไป
นางสาวดาวเรือง สนองผัน อายุ 49 ปี บอกว่าทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องธนาคารเตียงและรถวีลแชร์จากลูกสาวซึ่งตนเองตอนนี้ได้ออกจากงานและ รับมาทำหน้าที่ดูแลแม่ตลอด 24 ชั่วโมงหลังจากรับตัวออกจากโรงพยาบาลซึ่งปกติแม่ซึ่งเราเป็นผู้สูงวัยก็จะชอบอยู่คนเดียวแต่นับจากนี้จะจะต้องมีการดูแลให้มากขึ้น วันนี้รู้สึกประทับใจที่หลวงพี่น้ำฝนและท่านเจ้าคุณอ๋อได้ลงมาเยี่ยมเยียนและนำเตียงรวมถึงรถวีลแชร์ปัจจัยและเครื่องยังชีพมามอบให้ตัวเองรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณกับคณะสงฆ์ที่ได้ร่วมกันเข้ามาให้การช่วยเหลือเพราะปัจจุบันรายได้ที่น้องน้องได้รวบรวมเงินกันมาเดือนละ 8000 บาทสำหรับการจ่ายค่าห้องเช่าและการดูแลมารดา รวมถึงตัวเองที่จะต้องออกจากงานมาดูแลแม่เต็มที่ก็ไม่เพียงพอการที่คณะสงฆ์ไม่ทอดทิ้งและได้ประสานงานโรงพยาบาลสามพรานเข้ามาดูแลเป็นสิ่งที่ประทับใจและปลื้มใจ
“แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อวงการพระสงฆ์อาจจะดูตั้งข้อสงสัยแต่สำหรับตัวเองวันนี้เมื่อได้สัมผัสหลวงพี่น้ำฝนและท่านเจ้าคุณอ๋อแล้วรู้สึกว่าพระดีดียังมีอยู่ท่านยังทำโครงการเหล่านี้ต่อเนื่องส่วนที่ไม่ดีก็ไม่จำเป็นจะต้องไปดูในสังคมแต่เรายังมีพระดีดีให้กราบไหว้ได้อยู่สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่ามีญาติโยมอีกหลายครอบครัวที่ได้รับประโยชน์และการช่วยเหลือเหล่านี้ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ” นางสาวดาวเรือง กล่าวปิดท้าย