พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยกับสืบมวลชนว่า จากรายงานของตำรวจภูธร จังหวัดกาญจนบุรี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์ war Room PCT ภ.7
ได้รับแจ้งเหตุฉ้อโกงทางออนไลน์ เหยื่อคือ นายชาญวิทย์( ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ใช้บัญชี ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ แห่งหนึ่ง ได้ทำการโอนเงินไปยังแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงคดีออนไลน์
ด้วยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2568 ได้รับข้อมูลจาก วอลรูม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เวลาประมาณ 12.29 น. ได้รับแจ้งเหตุฉ้อโกงทางออนไลน์ จาก war Room PCT.ภ.7 และได้ไประงับเหตุ
เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีมิจฉาชีพหลอกลวงคดีออนไลน์ พบว่า นายชาญวิทย์ ช่วงชัย ใช้บัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 404 022 7462 ชื่อบัญชี นายชาญวิทย์ ช่วงชัยได้ทำการโอนเงินไปยังแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงคดีออนไลน์ ไปถามเจ้าหน้าที่พบว่าเหยื่อ พักอาศัยอยู่ที่ ม.3 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ทางศูนย์จึงได้ประสาน แจ้งให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เร่งรีบเข้าทำการช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพบ นายชาญวิทย์ ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่บ้านดังกล่าว
จากการซักถาม นายชาญวิทย์
ผู้เสียหาย พบเห็นการ โฆษณาประชาสัมพันธ์ทาง สื่อออนไลน์ ว่า โทรศัพท์ iPhone 17จากเพจเฟสบุ๊คชื่อ “พี่พิมพ์แม่ค้าออนไลน์ 100 ล้าน”โดยบอกกับว่าผู้เสียหายว่าจะขายโทรศัพท์ iPhone 17 ให้เครื่องละ 990 บาท เหยื่อเกิดความสนใจจึงได้มีการติดต่อ และ ทาง คนขาย ได้ส่ง QR code ให้สแกนจ่ายเงิน โดยต้องเสียค่าดำเนินการ เรื่องค่าประกันเรื่องเงิน,ค่าภาษี,ค่าคอมมิชชั่นค่ารหัส iPhone และค่าธรรมเนียม รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 196,913 บาท เหยื่อโอนไปแล้ว โดยมีการโอนเงินเริ่มเมื่อ วันที่ 31 ต.ค. 68 มีการโอนเงินจำนวน 6 ครั้งเป็นเงิน 29,974 บาทผ่าน QR code ระบุชื่อผู้รับนายเอกสิทธิ์ กิมเนมบุญสิน และ พีรพัฒน์ แดงมี
วันที่ 2 พ.ย. 68 มีการโอนเงินจำนวน 1 ครั้งเป็นเงิน 6,939 บาทผ่าน QR code ระบุชื่อนิติชัย ต้นสารี วันที่ 2 พ.ย. 68 มีการโอนเงินจำนวน 3 ครั้งเป็นเงิน 160,000 บาทผ่านหมายเลขบัญชีธนาคารระบุชื่อผู้รับ น.ส.ฐญามน โสดา
และ ขณะที่เจ้าหน้าที่ เข้าช่วยเหลือ เหยื่อกำลังจะ โอนเงินอีกจำนวน 80,000 บาทเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาประสานเหตุการณ์ยับยั้ง
ไว้ได้ทันจึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปเพิ่มอีก จึงให้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเหยื่อ เขาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการ ขยายผลติดตาม นำเงินที่โอนไป ใน บัญชีต่างๆคืน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากกรณีดังกล่าว นายชาญวิทย์ ผู้เสียหาย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายและทุกกส่วน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาช่วยเหลือแนะนำยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายได้ทัน ทำให้ไม่ตัองสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้ ซึ่งผู้เสียหาย บอกว่า พึ่งทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพัฒนาในระบบการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนมิให้ตกเป็นเหยื่อในคดีออนไลน์ซึ่งเป็นการลดความเสียหายได้เป็นอย่างมาก.
อีกรายเวลาประมาณ 16.00 น.วันเดียวกันกับรายแรกกก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.หัวหิน ได้รับข้อมูลจาก วอลรูม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์ จึงนำกำลังเข้าระงีบยับยั้ง พบว่า เหยื่อคือ นายอนุกูล ( ขอสงวนนามสกุ) ซึ่งเป็นผู้ ใช้บัญชี พร้อมเพย์ ธนาคารพาณิชย์ แห่งหนึ่ง อยู่พักอาศัยอยู่ที่ ม.7 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ จากการซักถาม
นายอนุกูล ผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกให้โอนเงินจากเพจเฟสบุ๊คชื่ออาจารย์ ” เอจักรพรรดิ์ ” โดยบอกกับว่าผู้เสียหายว่าได้รับเงินรางวัล จำนวนหนึ่ง แต่ต้องส่งเลขบัญชีไปให้เพื่อรับเงิน โดยต้องเสียค่าดำเนินการครั้งแรก 500 บาท โอนไปเลขบัญชีแรก บริษัท เอซียูเพลย์ พร้อมเพย์ 130125102600286 ชื่อ ศศินา มอนะ ครั้งที่สอง 2,200 บาท และครั้งที่สาม 9,936 โดยโอนไปผ่าน
บัญชีไทยพานิช ชื่อบัญชีน.ส.ฐญามล โสดา เลขบัญชี 4075252767
โดยรวมค่าเสียหายที่เหยื่อโอนเงินไปเป็นเงิน 20,372 บาท ยังไม่ทันได้โอน เพิ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการ ช่วยเหลือระงับยับย ั้งไว้ได้ก่อน จึงให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานที่ตำรวจภูธรหัวหิน เพื่อดำเนินการขยายผล ติดตาม ไปให้ถึงตัวเจ้าของบัญชี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และติดตาม เงินคืน ให้กับเหยื่อ ต่อไป
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการช่วยเหลือจากระงับยับยั้ง ไม่ให้ นายอนุกูล ถูกหลอกให้โอนเงินไปเพิ่ม ได้แล้ว นายอนุกูล ผู้เสียหายได้กล่าว ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาช่วยเหลือแนะนำยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายได้ทันท่วงทีทำให้ไม่ตัองสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้
และพึ่งทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพัฒนาในระบบการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนมิให้ตกเป็นเหยื่อในคดีออนไลน์ซึ่งเป็นการลดความเสียหายได้เป็นอย่างมาก พร้อมทั้งยอมเปิดเผยเล่าเหตุการณ์ ให้ฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ ประชาชน ทั่วไป.
จากทั้งสองกรณี ปฏิบัติการเริ่มจากภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์
รอง ผบก สส.ภ.7 รักษาราชการแทนรอง ผบก. ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์
ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ธวัชชัย นรสิงห์
ผกก.สภ.พนมทวน
พ.ต.ท.ศุภสาร อายุยืน
รองผกก.สืบสวน สภ.พนมทวนได้สั่งการให้
หน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.พนมทวน และ ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ โดย
พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง
ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย
รอง ผบก ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย
ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย
ผกก.สภ.หัวหิน
พ.ต.ท.สมพงษ์ อยู่ยืด
รองผกก.สืบสวน สภ.หัวหิน
พ.ต.ท.ปฏิวัติ วิเชียร
รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา
รองผกก.สภ.หัวหิน ได้สั่งการให้ หน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.หัวหิน
พร้อมสายตรวจ20 รถยนต์ จักรยานยนต์ ทั้ง 2 พื้นที่ เร่งรัด ตรวจหาและ เข้าพบ ผู้เสียหาย จากการแจ้งเตือน ข้อมูลมาจากวอลรูม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์ จนนำไปสู่เข้าช่วยเหลือระงับยับยั้งเหยื่อ ได้สำเร็จดังกล่าว
ก็ขอฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชนทั่วไป ที่ เห็น สิ่งใด บนออนไลน์หรือ การแจ้งปิดประกาศใดๆ ทั้งสินค้า ซึ่งในข้อเท็จจริงเป็นราคาแพงแต่กับเอามาขายในราคาถูก หรือมีการแจ้งว่าท่านเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลนู่นนี่นั่น ก็อย่าหลงเชื่อโดยทันที ให้ยึดถือ คติประจำใจไว้ว่า ของแพง ราคาถูก มันไม่มีอยู่บนโลกใบนี้จริง โดยเฉพาะ ใครก็ตามได้รับข้อความ แจ้งว่าท่านคือผู้โชคผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นสิ่งของหรือเงินสด หาก มีช่องทางในการสื่อสารได้ก็ให้บอกว่า ส่งมาให้เลยแล้วกัน แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นยินดีรับ…
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7…
