สคร.5 ราชบุรี เผยผลเฝ้าระวังโรคสัปดาห์ล่าสุด: คุมเข้ม “ฝีดาษวานร” ในสถานพยาบาล พร้อมเตือนรับมือฝุ่น PM2.5 โซนตะวันตกเริ่มเกินเกณฑ์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี (สคร.5) สรุปสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์ที่ 51 พบประเด็นน่าจับตา ทั้งกรณีฝีดาษวานรในกลุ่มเปราะบาง และค่าฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพใน 3 จังหวัด ย้ำประชาชน “การ์ดอย่าตก” พร้อมระดมทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่คุมเข้มทุกเหตุการณ์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

แพทย์หญิงปทุมมาลย์ ศิลาพร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพ ประจำสัปดาห์ที่ 51 (ระหว่างวันที่ 15-21 ธันวาคม 2568) ว่า ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 5 มีเหตุการณ์สำคัญที่ต้องสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

1. การเฝ้าระวัง “โรคฝีดาษวานร” (Mpox) อย่างเข้มข้น ในสัปดาห์นี้พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 2 ราย ในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร โดยพบกรณีที่น่าสนใจคือการติดเชื้อในผู้ป่วยสูงอายุกลุ่มเปราะบางในสถานพยาบาล ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า ผลตรวจยืนยันเป็นสายพันธุ์ West African Clade (Clade II) ที่ความรุนแรงต่ำ

การดำเนินงาน: สคร.5 ได้ดำเนินการสอบสวนโรคและกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทันที พร้อมกำชับให้สถานพยาบาลทุกแห่งยกระดับมาตรการป้องกันการติดเชื้อ (Infection Control) อย่างเคร่งครัด ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบการควบคุมโรค และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่มีผื่นตุ่มหนองที่น่าสงสัย

2. ภัยสุขภาพจาก “ฝุ่น PM2.5” คุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสงคราม เริ่มเกินค่ามาตรฐาน (สูงกว่า 37.5 มคก./ลบ.ม.) โดยพบค่าสูงสุดที่ 63.1 มคก./ลบ.ม. ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง งดกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อออกจากอาคาร

3. การเฝ้าระวัง “โรคจากการประกอบอาชีพ” พบผู้ป่วย โรคปอดจากฝุ่นหิน (Silicosis) ใน จ.กาญจนบุรี จากประวัติการทำงานในโรงโม่หิน สคร.5 จึงได้เร่งประสานสถานประกอบการเพื่อปรับปรุงระบบระบายอากาศ และนำพนักงานกลุ่มเสี่ยงกว่า 70 ราย เข้าสู่กระบวนการคัดกรองสุขภาพปอดเชิงลึก เพื่อป้องกันผู้ป่วยรายใหม่

แพทย์หญิงปทุมมาลย์ กล่าวทิ้งท้ายถึงหลักการรายงานข่าวสารโรคระบาดว่า “การแจ้งเตือนภัยทางสาธารณสุข เปรียบเสมือนการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยให้ชุมชน เราจำเป็นต้องประกาศเตือนให้เพื่อนบ้านทราบว่า ‘ช่วงนี้มีขโมยระบาด’ เพื่อให้ทุกคนช่วยกันล็อกบ้านและระวังตัว แต่เราไม่จำเป็นต้องระบุว่า ‘ขโมยขึ้นบ้านเลขที่เท่าไหร่ หรือเจ้าของบ้านเป็นใคร’ เพื่อเป็นการเคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วย ในขณะที่ภาพรวมของชุมชนยังคงได้รับการปกป้องและเฝ้าระวังอย่างทั่วถึง”

Related posts