วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 09.02 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตร และประกาศนียบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันสมทบ ประจำปีการศึกษา 2567 วันแรก ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม คณาจารย์ และผู้แทนนักศึกษา เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่างๆ จำนวน 6 ราย ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พลตำรวจเอก นายแพทย์จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ ปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สูติ-นรีเวชวิทยา) ศาสตราจารย์ ดร. แพทย์หญิงชารอน เจ พีค๊อก (Professor Sharon J. Peacock, M.D., Ph.D., CBE) ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (อายุรศาสตร์เขตร้อน) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นทีทิพย์ กฤษณามระ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สรีรวิทยา) นายบัณฑูร ล่ำซำ ปริญญาเภสัชศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิทยาศาสตร์การกีฬา) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์วิษณุ ธรรมลิขิตกุล ปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (โรคติดเชื้อและระบาดวิทยาคลินิก) พระราชทานเหรียญรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล จงเจตน์เมธีวิชญ์ จำนวน 2 ราย ได้แก่ ประเภทนักวิจัยดีเด่น นายแพทย์วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร มูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ประเภทนักวิจัยรุ่นใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.วโรดม เจริญสวรรค์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พระราชทานเกียรติบัตรแก่ผู้ได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 6 ราย พระราชทานเกียรติบัตรแก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ และศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ จำนวน 17 ราย พระราชทานปริญญาบัตรแก่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป บัณฑิตพิเศษ จำนวน 6 ราย และผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล รอบเช้า จำนวน 1,839 ราย ประกอบด้วย บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยการจัดการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสว่างควัฒน คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า สถาบันพระบรมราชชนก และรอบบ่าย จำนวน 1,861ราย วิทยาลัยนานาชาติ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะกายภาพบำบัด คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ คณะสาธารณสุขศาสตร์
ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหิดล และทอดพระเนตรการแสดงดนตรีจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นการแสดงที่ถ่ายทอดความรื่นเริงและคุณค่าของบทเพลงลูกทุ่ง เริ่มต้นด้วย วงแตรฟันฟาร์ (Brass Fanfare) บรรเลงประโคมในบทเพลง “Mahidol Salute” ซึ่งประพันธ์ขึ้นใหม่โดยเฉพาะสำหรับโอกาสนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสง่างาม และประกาศเกียรติคุณของพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล และนำเข้าสู่การแสดงหลักด้วยบทเพลง “แสบหัวใจ” จากนั้นเป็นการแสดงขับร้องคู่ชายหญิง ในบทเพลง “30 ยังแจ๋ว” เรียบเรียงในลักษณะ Cross-Genre Ensemble นำบทเพลงลูกทุ่งมาผสมผสานกับดนตรีป๊อปที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่าย และใช้เครื่องดนตรีไทยร่วมบรรเลง เพื่อแสดงถึงความกลมกลืนในความหลากหลาย “Harmony in Diversity” สะท้อนเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
***********************************************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว